นี่อาจไม่ใช่ไข่ยักษ์ แต่มันคือ...
มีชายคนหนึ่ง ข่าวมิได้แจ้งว่ามาจากไหน อายุเท่าไร สัญชาติใด ขับรถท่องไปในออสเตรเลีย หวังว่าจะได้ชื่นชมวัฒนธรรมและทิวทัศน์เป็นเฉพาะของประเทศที่มีทะเลล้อมอยู่โดยรอบนี้
วันหนึ่งเมื่อเขาขับรถฝ่าเข้าไปในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลของออสเตรเลีย ก็บังเอิญไปพบสิ่งที่มีสีเขียวคล้ำอยู่ข้างทางกองหนึ่ง เขาหยุดรถเตรียมลงไปดู ใจก็คิดว่าเจ้ากองหินนั้นเป็นอะไรกันแน่?
เมื่อเดินใกล้เข้าไป ก็เห็นเป็นหินรูปไข่สีเขียวคล้ำ 9 ลูกใหญ่กว่าไข่ไก่ธรรมดาหลายต่อหลายเท่าตัว
ทุกลูกมีจุดขาว ๆ เล็ก ๆ ทั่วทั้งลูก เขาหยิบไข่หินยักษ์นั้นขึ้นมาดู ประมาณว่าแต่ละลูกมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 300 ถึง 400 กรัม ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจะเป็นไข่ของสัตว์โบราณที่ยังมิได้ฟักออกมาเป็นตัวนานมากก็กลายเป็นหิน หรือจะเป็นหินรูปไข่ตามธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่น่าจะเกลี้ยงเกลาไม่มีรอยขรุขระตะปุ่มตะป่ำเลยแต่น้อย
เขาเอาไข่หินยักษ์ 9 ลูกนั้นขึ้นไปไว้ในรถ แล้วเดินดูบริเวณนั้นอีกพักใหญ่ เผื่อว่าจะพบได้อีก แต่ก็ไม่พบทั้งร่องรอยของสัตว์ใด ๆ และไข่หินอีก จึงขับรถกลับ ดีใจที่ได้ของพิสดารอย่างไม่นึกฝัน สงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีใครพบเห็นมาก่อน?
ในระหว่างทางกลับ เขาคิดอยู่ตลอดเวลาถึงไข่หินยักษ์เหล่านั้นว่ามันเป็นอะไรกันแน่
แต่เขาก็ไม่มีคำตอบ ในที่สุดเขาจึงคิดว่า คงจะต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ออสเตรเลียหรือโบราณวัตถุมาช่วยวิเคราะห์ก็คงจะรู้ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าผู้เชี่ยวชาญจะรู้อย่างที่เขาต้องการ เจ้าไข่หินยักษ์ 9 ลูกเลยกลายเป็นปริศนาคาใจของนักท่องเที่ยวคนนั้นจนกว่าจะได้คำตอบอย่างแน่ชัดในอนาคต
วันหนึ่งเมื่อเขาขับรถฝ่าเข้าไปในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลของออสเตรเลีย ก็บังเอิญไปพบสิ่งที่มีสีเขียวคล้ำอยู่ข้างทางกองหนึ่ง เขาหยุดรถเตรียมลงไปดู ใจก็คิดว่าเจ้ากองหินนั้นเป็นอะไรกันแน่?
เมื่อเดินใกล้เข้าไป ก็เห็นเป็นหินรูปไข่สีเขียวคล้ำ 9 ลูกใหญ่กว่าไข่ไก่ธรรมดาหลายต่อหลายเท่าตัว
ทุกลูกมีจุดขาว ๆ เล็ก ๆ ทั่วทั้งลูก เขาหยิบไข่หินยักษ์นั้นขึ้นมาดู ประมาณว่าแต่ละลูกมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 300 ถึง 400 กรัม ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจะเป็นไข่ของสัตว์โบราณที่ยังมิได้ฟักออกมาเป็นตัวนานมากก็กลายเป็นหิน หรือจะเป็นหินรูปไข่ตามธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่น่าจะเกลี้ยงเกลาไม่มีรอยขรุขระตะปุ่มตะป่ำเลยแต่น้อย
เขาเอาไข่หินยักษ์ 9 ลูกนั้นขึ้นไปไว้ในรถ แล้วเดินดูบริเวณนั้นอีกพักใหญ่ เผื่อว่าจะพบได้อีก แต่ก็ไม่พบทั้งร่องรอยของสัตว์ใด ๆ และไข่หินอีก จึงขับรถกลับ ดีใจที่ได้ของพิสดารอย่างไม่นึกฝัน สงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีใครพบเห็นมาก่อน?
ในระหว่างทางกลับ เขาคิดอยู่ตลอดเวลาถึงไข่หินยักษ์เหล่านั้นว่ามันเป็นอะไรกันแน่
แต่เขาก็ไม่มีคำตอบ ในที่สุดเขาจึงคิดว่า คงจะต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ออสเตรเลียหรือโบราณวัตถุมาช่วยวิเคราะห์ก็คงจะรู้ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าผู้เชี่ยวชาญจะรู้อย่างที่เขาต้องการ เจ้าไข่หินยักษ์ 9 ลูกเลยกลายเป็นปริศนาคาใจของนักท่องเที่ยวคนนั้นจนกว่าจะได้คำตอบอย่างแน่ชัดในอนาคต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น