โรคน้ำตาลในเลือดต่ำ มีอยู่จริง!
ท่านเคยมีอาการเหล่านี้อย่างเดียว
หรือหลายอย่างพร้อมกันบ้างไหม?
อ่อนเพลียไม่มีแรง
เบื่อหน่ายซึมเศร้า
นอนไม่หลับรับกระส่าย
อยู่ดี ๆ ก็เวียนหัวปวดหัว
เหงื่อแตกบ่อย ๆ
มือสั่น
หัวใจเต้นผิดปกติ
ปวดกล้ามเนื้อปวดหลัง
เบื่ออาหาร
จิตใจฟุ้งซ่าน
ขาดสมาธิ
เนื้อตัวชาเป็นบางครั้ง
ท้องอืดท้องขึ้น
มือเย็นเท้าเย็น
รู้สึกสับสนปั่นป่วน
เป็นตะคริวบ่อย
เบื่อการพบปะพูดคุยกับผู้คน
อ้วนน้ำหนักเพิ่ม
การทรงตัวไม่ดี
อยากฆ่าตัวตาย
เกิดการชักกระตุก
เป็นลมบ่อย ๆ
ความจำเสื่อม
วิตกกังวลไม่รู้สาเหตุ
กามตายด้าน
ถ่ายปัสสาวะอุจจาระผิดปกติ ฯลฯ
อาการแปลก ๆ ทำนองนี้ยังมีอีกมากจาระไนไม่หมด ในอเมริกา จากการสำรวจคร่าว ๆ พบว่ามีคนที่มีอาการแปลก ๆ ดังกล่าวและอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา มากถึงกว่า 50 ล้านคน
นายแพทย์ท่านหนึ่งในอเมริกาชื่อสตีเว่น ไคแลนด์พบว่าเขาเกิดอ่อนเพลียอย่างทันทีทันใดโดยไม่มีสาเหตุ
นอกจากนั้น เขานอนไม่หลับปวดเนื้อปวดตัวตลอดเวลา เมื่อเขามีอาการเหล่านี้ ทำให้เขาเบื่อไปหมดทุกอย่าง เบื่อจนกระทั่งคิดอยากฆ่าตัวตาย
เขาไปหาแพทย์ที่เป็นเพื่อนกันหลายคน รวมทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางหลาย ๆ โรค ทาง
สมองมองบ้าง ทางประสาทบ้าง ให้ช่วยตรวจเขาโดยละเอียดทั้งเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ
แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไรแน่ แต่หลาย ๆ คนบอกว่าเขาอาจจะเป็นโรค
อุปาทานหรือโรคประสาทแต่ก็ไม่ยืนยันแน่นอน
เมื่อเป็นดังนี้ เขาจึงตัดสินใจเด็ดขาดว่าเขาจะต้องหาทางรักษาตัวเองให้หายจากโรคประหลาดนี้ให้ได้ เขาเริ่มค้นคว้าศึกษารายงานทางการแพทย์ในโรคต่าง ๆ เขาย้อนต้นไป 50 ปี
ในที่สุดก็พบรายงานของนายแพทย์รุ่นอาจารย์คนหนึ่งชื่อซีล แฮรีส ว่า
โรคประหลาดอาการแปลก ๆ นี้คือ โรคน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือ HYPOGLYCEMIA
รายงานของอาจารย์ท่านนี้เป็นผลจากการตรวจคนไข้หลายคน ซึ่งตรงกับอาการของตน
เมื่อพบต้นเหตุของโรคประหลาดนี้แล้ว
นายแพทย์สตีเวนก็เริ่มรักษาตัวเองทันที เขาแก้ไขที่อาหารก่อน
โดยเลิกกินอาหารจำพวกแป้งขาวและน้ำตาลขาว
แล้วหันมากินอาหารที่ไม่ได้ขัดสีส่วนเคลือบออก
และกินอาหารประเภทผัก ผักสด
หลังจากนั้นก็แก้เรื่องชีวิตประจำวันและความเครียด
ในไม่ช้า เขาก็หายขาดจากโรคประหลาดที่มีอาการแปลก ๆ ที่เป็นมาหลายสิบปี
ผลสำเร็จในการค้นพบและรักษาให้หายได้ นายแพทย์สตีเวนจึงร่วมกับเพื่อนแพทย์อีกหลายคนร่วมกันค้นคว้าต่อ ทั้งได้รายงานไปยังวงการแพทย์อเมริกา
ปรากฏว่าเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์อเมริกาโดยทั่วไปว่าโรคนี้มีอยู่จริง
หรือหลายอย่างพร้อมกันบ้างไหม?
อ่อนเพลียไม่มีแรง
เบื่อหน่ายซึมเศร้า
นอนไม่หลับรับกระส่าย
อยู่ดี ๆ ก็เวียนหัวปวดหัว
เหงื่อแตกบ่อย ๆ
มือสั่น
หัวใจเต้นผิดปกติ
ปวดกล้ามเนื้อปวดหลัง
เบื่ออาหาร
จิตใจฟุ้งซ่าน
ขาดสมาธิ
เนื้อตัวชาเป็นบางครั้ง
ท้องอืดท้องขึ้น
มือเย็นเท้าเย็น
รู้สึกสับสนปั่นป่วน
เป็นตะคริวบ่อย
เบื่อการพบปะพูดคุยกับผู้คน
อ้วนน้ำหนักเพิ่ม
การทรงตัวไม่ดี
อยากฆ่าตัวตาย
เกิดการชักกระตุก
เป็นลมบ่อย ๆ
ความจำเสื่อม
วิตกกังวลไม่รู้สาเหตุ
กามตายด้าน
ถ่ายปัสสาวะอุจจาระผิดปกติ ฯลฯ
อาการแปลก ๆ ทำนองนี้ยังมีอีกมากจาระไนไม่หมด ในอเมริกา จากการสำรวจคร่าว ๆ พบว่ามีคนที่มีอาการแปลก ๆ ดังกล่าวและอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา มากถึงกว่า 50 ล้านคน
นายแพทย์ท่านหนึ่งในอเมริกาชื่อสตีเว่น ไคแลนด์พบว่าเขาเกิดอ่อนเพลียอย่างทันทีทันใดโดยไม่มีสาเหตุ
นอกจากนั้น เขานอนไม่หลับปวดเนื้อปวดตัวตลอดเวลา เมื่อเขามีอาการเหล่านี้ ทำให้เขาเบื่อไปหมดทุกอย่าง เบื่อจนกระทั่งคิดอยากฆ่าตัวตาย
เขาไปหาแพทย์ที่เป็นเพื่อนกันหลายคน รวมทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางหลาย ๆ โรค ทาง
สมองมองบ้าง ทางประสาทบ้าง ให้ช่วยตรวจเขาโดยละเอียดทั้งเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ
แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไรแน่ แต่หลาย ๆ คนบอกว่าเขาอาจจะเป็นโรค
อุปาทานหรือโรคประสาทแต่ก็ไม่ยืนยันแน่นอน
เมื่อเป็นดังนี้ เขาจึงตัดสินใจเด็ดขาดว่าเขาจะต้องหาทางรักษาตัวเองให้หายจากโรคประหลาดนี้ให้ได้ เขาเริ่มค้นคว้าศึกษารายงานทางการแพทย์ในโรคต่าง ๆ เขาย้อนต้นไป 50 ปี
ในที่สุดก็พบรายงานของนายแพทย์รุ่นอาจารย์คนหนึ่งชื่อซีล แฮรีส ว่า
โรคประหลาดอาการแปลก ๆ นี้คือ โรคน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือ HYPOGLYCEMIA
รายงานของอาจารย์ท่านนี้เป็นผลจากการตรวจคนไข้หลายคน ซึ่งตรงกับอาการของตน
เมื่อพบต้นเหตุของโรคประหลาดนี้แล้ว
นายแพทย์สตีเวนก็เริ่มรักษาตัวเองทันที เขาแก้ไขที่อาหารก่อน
โดยเลิกกินอาหารจำพวกแป้งขาวและน้ำตาลขาว
แล้วหันมากินอาหารที่ไม่ได้ขัดสีส่วนเคลือบออก
และกินอาหารประเภทผัก ผักสด
หลังจากนั้นก็แก้เรื่องชีวิตประจำวันและความเครียด
ในไม่ช้า เขาก็หายขาดจากโรคประหลาดที่มีอาการแปลก ๆ ที่เป็นมาหลายสิบปี
ผลสำเร็จในการค้นพบและรักษาให้หายได้ นายแพทย์สตีเวนจึงร่วมกับเพื่อนแพทย์อีกหลายคนร่วมกันค้นคว้าต่อ ทั้งได้รายงานไปยังวงการแพทย์อเมริกา
ปรากฏว่าเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์อเมริกาโดยทั่วไปว่าโรคนี้มีอยู่จริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น